ชะลอ...ชรา...ด้วย 'ไข่ไก'
"ไข่ไก่" เป็นอาหารโปรตีนคุณภาพดีและมีสารอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แถมยังราคาถูกและซื้อได้ง่าย
การปรุงอาหารประเภทไข่ก็ทำได้ไม่ยาก สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายประเภท ทั้งอาหารคาว หวาน อาหารว่าง และขนมหลายอย่าง...ทุกๆ บ้านมักมีไข่ไก่ติดครัวด้วยกันทั้งนั้น
ไข่ไก่อุดมไปด้วยสารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโปรตีนไข่ที่เรีบกว่า "อัลบูมิน" (albumin) ซึ่งเป็นโปรตีนคุณภาพสูง พบในไข่ขาวมากถึง 90% องค์การอนามัยโลกจึงใช้ "โปรตีนไข่" (egg proteins) และกรดอะมิโนเป็นค่าเปรียบเทียบมาตรฐาน เพื่อประเมิณคุณภาพโปรตีนจากแหล่งอาหารต่างๆ
นอกจากนี้"ไข่"ยังเป็นแหล่งวิตามิน เอ ดี บี 1 บี 2 บี 12 อี โฟเลท เหล็ก ซิลิเนียม และอื่นๆอีกหลายชนิด
"ไข่ไก่" วันนี้มีพิเศษยิ่งไปกว่านั้นคือการได้รับการกล่าวขานว่ามีประโยชน์ในด้าน การชะลอความชรา หรือ ต่อต้านความแก่
เพราะไข่ไก่มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงดูแลสุขภาพร่างกายประสิทธิภาพสูงอย่าง "โคลีน" ซึ่งมีอยู่ในปริมาณมาก โดยโคลีนนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่พบใน เยื่อหุ้มเซลล์สมองนับตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์เรื่อยไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย รวมทั้งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสารเคมีในเซลล์สมองที่ชื่ออะเซทิลโคลีน ซึ่งทำหน้าที่เป็น "สารสื่อนำประสาท" คอยควบคุมความจำและช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
อะเซทิลโคลีนนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคสมองเสื่อม หรืออัลไชเมอร์ เนื่องจากพบว่าในสมองของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีปริมาณของอะเซทิลโคลีนลดลงมากถึงร้อยละ 90
นอกจากนี้ไข่แดงยังอุดมไปด้วยสารสำคัญอย่างลูทีน (lutein) และซีแทนทิน (zeaxanthin) ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบประส่ทควบคุมการมองเห็นของดวงตาให้เป็นปกติ ช่วยชะลอการเกิดจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก หรือจะเรียกว่าสารอาหารทั้งสองนี้ก็มีส่วนช่วยชะลอความแก่ทางสายตาก็คงไม่ผิด
นพ.ดร.พัฒนา เต็งอำนวย ภาควิชาชีวเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และอาจารย์พิเศษ สำนักเวชศาสตร์ชะลอวัย วิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเคยบรรยายในที่ประชุมสมาคมวิทยาศาสตร์สัตว์ปีกโลก สาขาประเทศไทย ว่าความชรานั้นเกิดจากการรับประทานอาหารที่ผิดวิธี โดยเฉพาะการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรือแป้ง และน้ำตาล ตลอดจนไขมันดัดแปลง อาทิ ไขมันเทียม ครีมเทียม รวมทั้งนมข้นหวาน ในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะมีผลทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้และนำมาซึ่งความชราก่อนวัยอันควร
ขณะที่ "ไข่แดง" ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารมหาศาลกลับมีผลต่อการเพิ่มคอเลสเตอรอลในเลือดได้เพียง 20% เมื่อเทียบกับแป้ง น้ำตาล และไขมัน ที่มีผลทำให้คอเลสเตอรอลสูงได้มากถึง 70-80%
สอดคล้องกับงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดย Harvard Nurses' Health Study and the Health Professionals Follow Up Study ที่ใช้เวลานานกว่า 10ปี ในการทดลองให้กลุ่มตัวอย่าง 100,000 คน บริโภคไช่ไก่วันละฟองต่อวัน พบว่านอกจากการรับประทานไข่ไก่วันละฟองจะไม่เป็นอันตรายต่อ สุขภาพแล้ว ยังพิสูจน์ได้ว่าการรับประทานไข่ไก่ไม่ได้ทำให้ระดับคอลเลสเตอรอลสูง หลอดเหลืออุดตัน หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ แต่โรคที่ว่ากลับเกิดเพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงชนิดอื่น เช่น ไขมันจากสัตว์ ไขมันจากนม และเนยเป็นต้น
เมื่อไม่นานมานี้ สมาคมโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกา (AHA) ได้เปลี่ยนคำแนะนำในการรับประทานไข่ไก่จากเดิมไม่ควรเกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์เป็นวันละหนึ่งฟองแล้ว สำหรับคนที่มีสุขภาพดี แต่หากมีปัญหาไขมันหรือคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน ควรเลือกรับประทานไข่ไก่ฟองเล็กได้วันละฟอง และรับประทานผักให้มากขึ้น จำกัดไขมันจากเนื้อสัตว์ ไขมันจากนมและเนาย รวมทั้งกุ้ง หอย และปลาหมึก ซึ่งเป็นแหล่งคอเลสเตอรอล
เห็นได้ว่า ไข่ไก่ โดยเฉพาะในไข่แดงมีแร่ธาตุที่ดีและมีสารอาหารครบถ้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งโคลีนและสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายชนิด เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่สนับสนุนให้ "ไข่ไก่" กลายเป็น "อาหารต้านแก่" ไปโดยปริยาย
คนทุกวัยสามารถรับประทานไข่ไก่ได้วันละฟอง ตามข้อมูลของสมาคมโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกา ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเรสเตอรอลสูง และกลุ่มที่มีพันธุกรรมที่ร่างกายไวต่อการดูดซึมคอเลสเตอรอล ก็ยังคงควรบริโภคไข่ไก่เช่นกัน เพื่อให้ได้สารอาหารดีๆ เข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
สำหรับคนที่เข้าสู่สูงวัยสูงอายุแล้ว ยังคงต้องรับประทานไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ขาว เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้สูงวัยมักมีปัญหากล้ามเนื้อลีบ กล้ามเนื้อไม่มีแรง ซึ่งเกิดจากการขาดสารอาหารประเภทโปรตีนอย่างอัลบูมินซึ่งมีอยู่ในไข่ไก่
เนตรนภิส วัฒนสุชาติ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร
ม.เกษตรศาสตร์